ไบไอติน ใน แฮร์โกร (HAREGRO)
ไบโอติน (biotin) เป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งที่ละลายได้ในน้ำ เรียกอีกชื่อว่า วิตามินเอช (vitamin H) ในธรรมชาติมักเกิดรวมอยู่กับกรดแอมิโนไลซีน (lysine) ไบโอตินเป็นสารจำเป็นในการเจริญของยีสต์และจุลลินทรีย์หลายชนิด และยังช่วยให้ผมดกดำ รากผมแข็งแรง ลดอาการหลุดร่วงของเส้นผม และลดอาการผมหงอกก่อนวัยอันควร ร่างกายของคนเรามีแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ ที่เรียกว่า นอร์มอลฟอร์ร่า (normal flora) จะสามารถสร้างไบโอติน เพื่อใช้ประโยชน์ในร่างกายของเราได้ รวมถึงในอาหารที่รับประทานมักจะมีไบโอตินเพียงพอ ปกติจึงไม่ค่อยพบปัญหาการขาดไบโอตินในคน แต่ในสภาพความเป็นจริงแล้วในหลายภาวะ เช่น ในผู้ที่รับประทานยาในกลุ่มยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียอยู่เป็นประจำ มักจะพบว่ายาฆ่าเชื้อดังกล่าวจะไปทำลาย นอร์มอลฟอร์ร่า ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ด้วยเสมอ ส่งผลให้ร่างกายของเราได้รับไบไอตินไม่เพียงพอ และยังพบว่า ผู้ที่นิยมรับประทานไข่ดิบ ซึ่งในไข่ดิบนั้นจะมีโปรตีนชนิดหนึ่งที่ชื่อ โปรตีน แอวิดีน (avidin) ที่มีสมบัติในการรวมกับไบโอตินในอาหาร หรือลำไส้ เกิดเป็นสารประกอบที่ไม่ละลายในน้ำ ทำให้ลดการดูดซึมไบโอตินเข้าสู่ร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายของเราขาดไบโอตินได้
แหล่งอาหารที่พบไบโอติน
แหล่งอาหารในธรรมชาติที่มีไบโอตินมากที่สุด คือ ตับ ไต น้ำนม ไข่แดง และยีสต์ และยังมีมากในผักและผลไม้สดหลายชนิด อาหารที่มีไบโอตินน้อยมาก คือ เนื้อสัตว์ เมล็ดธัญพืช และผลิตผลจากข้าวและแป้ง
ประโยชน์ของไบโอติน (biotin)
ไบโอติน (biotin) ในร่างกายของเรา จะทำหน้าที่เป็นตัวร่วมเร่งปฏิกิริยาทางชีวเคมี หรือที่เรียกว่า โคเอนไซม์ (co-enzyme) ในปฏิกิริยาต่างๆ ได้แก่1. โคเอ็นไซม์ (co-enzyme) ในกระบวนการเผาผลาญไขมัน (fat metabolism) ช่วยให้ร่างกายสามารถนำไขมันมาใช้ประโยชน์ได้ดีขึ้น และนำไขมันมาสร้างเป็นกรดไขมัน (fatty acid) ที่เป็นสารตั้งต้นของสารสำคัญในร่างกายอื่นๆ ได้ดีขึ้น
2. โคเอ็นไซม์ (co-enzyme) ในกระบวนการสร้างสารไพริมิดีน (pyrimidine) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่ร่างกายนำไปใช้สร้างกรดนิวคลีอิก (nucleic acid) หรือ ดีเอ็นเอ (DNA) และ อาร์เอ็นเอ (RNA) ซึ่งเป็นสารทางพันธุกรรมต่อไป
กระบวนการแบ่งเซลล์ หรือเพิ่มจำนวนเซลล์ มีความจำเป็น
ที่เซลล์ใหม่จะต้องมีสารพันธุกรรม ดีเอ็นเอ (DNA) และอาร์เอ็นเอ (RNA) เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่านั้น จำเป็นที่จะต้องใช้ไบโอติน ในการสร้างสารตั้งต้นเสมอ หากร่างกายขาดไบโอตินดังกล่าว จะทำให้กระบวน การสร้างเซลล์ใหม่เกิดภาวะบกพร่องได้ เช่น อวัยวะที่ต้องเซลล์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา คือ เซลล์ผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ ยิ่งจะปรากฎภาวะความบกพร่องได้ง่ายและชัดเจนขึ้น เช่น อาจทำให้เกิดภาวะผมร่วง (hair loss) ภาวะผิวหนังอักเสบ (dermatitis) นอกจากนี้ในสตรีมีครรภ์ที่เซลล์ตัวอ่อนทารกมีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วก็ต้องการไบโอตินมากขึ้นสำหรับการสร้างสารพันธุกรรมอีกด้วย
อาการแสดงของผู้ที่ขาดไบโอติน
1. อาการผมร่วง (hair loss)
2. หมดเรี่ยวแรง (fatigue) และอาจมีอาการของการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ (muscle pain)
3. มีอาการคลื่นไส้อาเจียน (nausea) หรือความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร เช่น เบื่ออาหาร (loss of appetite)
4. มีอาการทางระบบประสาท เช่น อาการนอนไม่หลับ (insomnia) ภาวะซึมเศร้า (depression) ประสาทหลอน (hallucination)
5. เกิดความบกพร่องของระบบผิวพรรณ เช่น มีอาการผิวแห้ง (dry skin) เป็นผื่นคัน โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา จมูก ปาก และ บริเวณอวัยวะเพศ ผิวคล้ำ และเป็นจ้ำ การรับสัมผัสทางผิวพรรณผิดปกติ (sensitivity to touch)
6. ระบบการเผาผลาญไขมันเกิดความบกพร่อง ส่งผลให้ไขมัน คอเลสเตอรอลในเลือดสูง (increase in cholesterol) และการเผาผลาญไขมันน้อยลง
ไบไอติน (biotin) มีอยู่ใน แฮร์โกร (HAREGRO)
ปัจจุบัน แฮร์โกร (HAREGRO) ช่วยป้องกันผมร่วง ผมบาง ผมหงอก และศรีษะล้านได้จริง เป็นผลชัด ปลอดภัย 100%
วิธีรับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนนอน
แฮร์โกร (HAREGRO) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้
ผลิตภัณฑ์ แฮร์โกร (HAREGRO) สามารถแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมหงอก และศรีษะล้าน อย่างได้ผลชัด ปลอดภัย 100%
เลขที่ อ.ย. 13-1-02950-1-0026
สั่งซื้อสินค้าคลิกที่นี้
ดูข้อมูลที่ http://haregrosaibua.blogspot.com
บริการส่งฟรีทั่วประเทศไม่คิดค่าส่ง
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ สายบัว บุญหมื่น โทร. 088-415 3926
ID Line : bua300908
อีเมล์ sboonmuen@gmail.com